พระราชวังเว้สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิซาลอง 400 ปีเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์

พระราชวังเว้เป็นพระราชวังหลวงของราชวงศ์เหงียน ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในเมืองเว้ อดีตเมืองหลวงของเวียดนามในช่วง ค.ศ. 1802-1945 พระราชวังแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเวียดนามและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยมีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและเวียดนาม

ประวัติศาสตร์
พระราชวังเว้สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิซาลอง ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 โดยมีการก่อสร้างและขยายเพิ่มเติมในสมัยจักรพรรดิองค์ต่อๆ มา พระราชวังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการปกครองของประเทศเวียดนามในยุคนั้นและเป็นที่ประทับของจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์

สถาปัตยกรรม
พระราชวังเว้มีสถาปัตยกรรมที่งดงามและยิ่งใหญ่ โดยมีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและเวียดนาม ตัวอาคารส่วนใหญ่สร้างด้วยไม้และอิฐ มีการตกแต่งด้วยลวดลายที่ประณีตและสวยงาม ภายในพระราชวังมีห้องต่างๆ มากมาย เช่น ห้องท้องพระโรง ห้องบรรทม ห้องเสวย และสวน

การท่องเที่ยว
พระราชวังเว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพระราชวังและเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเวียดนามได้ นอกจากนี้ ภายในพระราชวังยังมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงโบราณวัตถุและงานศิลปะต่างๆ

เมืองเว้ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเวียดนาม เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์เหงียน และเป็นที่ตั้งของพระราชวังเว้ อันสวยงาม ซึ่งเป็นมรดกโลกของยูเนสโกที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เมืองเว้ขึ้นชื่อในด้านสถาปัตยกรรมโบราณ ความสำคัญทางวัฒนธรรม และบรรยากาศที่เงียบสงบ จึงมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และผู้แสวงหาวัฒนธรรม

ประวัติโดยย่อของเว้
เว้เป็นเมืองหลวงของเวียดนามระหว่างปี 1802 ถึง 1945 ภายใต้ราชวงศ์เหงียน ในช่วงเวลานี้ เมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางทางการเมือง วัฒนธรรม และการศึกษาของเวียดนาม พระราชวังหลวงหรือป้อมปราการสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เพื่อเป็นที่ประทับของราชวงศ์และศูนย์กลางการปกครอง ได้รับการออกแบบให้สะท้อนหลักการขงจื๊อ โดยแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเวียดนามผ่านพระราชวัง วัด และกำแพงที่สร้างขึ้นอย่างประณีต

สำรวจเมืองหลวง
เมืองหลวงเว้ประกอบด้วยหลายส่วนที่แตกต่างกัน แต่ละส่วนมอบประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร:

พระราชวังหลวง : ใจกลางเมืองมีพระราชวังหลวง ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของจักรพรรดิและบริหารราชการแผ่นดิน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมห้องโถงใหญ่ๆ รวมถึงพระราชวังไทฮัวซึ่งใช้สำหรับพิธีการและการประชุมสำคัญๆ

นครต้องห้ามสีม่วง : ด้านหลังพระราชวังหลวง พื้นที่ต้องห้ามแห่งนี้เคยสงวนไว้สำหรับจักรพรรดิและครอบครัวของพระองค์ แม้ว่าพื้นที่ส่วนใหญ่จะถูกทำลายในช่วงสงคราม แต่พื้นที่ดังกล่าวก็ยังคงมีความลึกลับและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์

พระราชวังและวัด : วัดและพระราชวังที่กระจายอยู่ทั่วเมืองหลวงเผยให้เห็นความยิ่งใหญ่ของชีวิตราชวงศ์เวียดนาม จุดเด่นที่สำคัญ ได้แก่พระราชวังได่หนอยและศาลาเฮียนลัมซึ่งทั้งสองแห่งล้วนมีสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและการออกแบบที่ประณีต

สุสานจักรพรรดิ : ไม่ไกลจากเมืองหลวง คุณจะพบกับสุสานจักรพรรดิ ที่สง่างาม ของจักรพรรดิเหงียน เช่นสุสานของไคดิงห์และสุสานของตูดึ๊กตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ และตกแต่งด้วยโมเสกและรูปปั้นที่สวยงาม

สิ่งที่ควรดูและทำ
ล่องเรือแม่น้ำน้ำหอม : อย่าพลาดโอกาสในการล่องเรือไปตามแม่น้ำน้ำหอมเพื่อชื่นชมทัศนียภาพของสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ของเว้ รวมทั้งเจดีย์เทียนมู่หนึ่งในเจดีย์ที่เก่าแก่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม

อาหารเว้ : เว้มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารที่มีเอกลักษณ์และอร่อย รวมถึงอาหารอย่างBánh Bèo (เค้กข้าวสวย) และBún Bò Huế (ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเผ็ด) การสำรวจร้านอาหารท้องถิ่นเป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อคุณมาเยือนที่นี่

สำรวจย่านเมืองเก่า : เดินเล่นไปรอบๆย่านเมืองเก่าอันมีเสน่ห์ของเมืองเว้ซึ่งคุณสามารถช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น เสื้อผ้าแบบดั้งเดิม และของที่ระลึก ตลอดจนดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา

เหตุใดจึงควรมาเยือนเว้?
การมาเยือนเว้เปรียบเสมือนการย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยที่สง่างามและอุดมไปด้วยวัฒนธรรม สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีและบรรยากาศอันเงียบสงบทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมของเวียดนาม ไม่ว่าคุณจะชื่นชมสุสานจักรพรรดิอันตระการตา ล่องเรือในแม่น้ำหอม หรือลิ้มลองอาหารท้องถิ่น เว้มอบประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์และน่าประทับใจให้กับคุณ

เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมเว้
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมเว้คือเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายกว่า อย่างไรก็ตาม เมืองนี้ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยแต่ละฤดูกาลจะมีเสน่ห์เฉพาะตัว

การผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงามของเว้ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่โดดเด่นสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสำรวจอดีตอันรุ่งโรจน์ของเวียดนาม ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้รักประวัติศาสตร์ ผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรม หรือเพียงแค่กำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่เงียบสงบ เว้จะดึงดูดใจคุณอย่างแน่นอน

Scroll to Top